ความยินยอมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ต่อไปนี้จะเรียกว่า (อพวช.) เป็นผู้ให้บริการจัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ องค์ความรู้ ผลงานวิจัย งานที่ปรึกษาด้านวิชาการโดย อพวช. ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ กิจกรรมและให้บริการ ผ่านการสื่อสารช่องทางต่าง ๆ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อพวช. ขอเรียนว่า อพวช.เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และตระหนักดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่ละท่านมีความสําคัญอย่างยิ่ง อพวช.จึงต้องการที่จะชี้แจงให้ทราบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนั้น อพวช. จึงได้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและ วิธีการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย การคุ้มครองข้อมูล การเข้าถึงข้อมูล การโอนย้าย และการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลในทีนี้หมายถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่เรารวบรวมจากเว็บไซต์แอปพลิเคชันมือถือ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ กิจกรรม และสถานที่อื่น ๆ ในการทําการลงทะเบียน และข้อมูลสาธารณะจากช่องทางต่าง ๆ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) นี้ อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดย อพวช. มีอํานาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า ‘ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล’ โดยมีพนักงานที่ อพวช.มอบหมายโดยเฉพาะให้มีหน้าที่ดําเนินการเกี่ยวกับการ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือในนามของ อพวช. ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า ‘ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล’ ส่วนท่านถือเป็น ‘เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล’ ตามกฎหมาย
ข้อ 1. ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่ อพวช. เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลที่ทําให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม จากเว็บไซต์ แอปพลิเคชันมือถือ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ กิจกรรม และสถานที่อื่น ๆ ในการทําการลงทะเบียน รวมถึงข้อมูลสาธารณะจากช่องทางต่าง ๆ ดังกล่าว โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส เลขประจําตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทํางาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน ข้อมูลพฤติกรรม เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรม การดํารงชีวิต ทัศนคติ และข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์อื่นๆ ของท่าน ข้อมูลด้านการตลาดและการสื่อสาร เช่น ตัวเลือกของคุณในการรับข้อมูลทางการตลาดจาก อพวช. บุคคลที่สาม พันธมิตรทางธุรกิจ และตัวเลือกในการติดต่อสื่อสารของคุณ ข้อมูลอื่น ๆ ที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของเราและท่าน
ข้อ 2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล การตลาดและการสื่อสาร เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตลาด การเข้าหากลุ่มเป้าหมาย การจัดส่วนแบ่งการตลาด การติดต่อสื่อสาร การนําเสนอข้อเสนอพิเศษ การส่งเสริมการตลาด ประกาศ ข่าว ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการอื่น ๆ จาก อพวช. และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจของเรา โดยไม่สามารถพิจารณาให้ตั้งอยู่บนฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ได้ตลอดจนการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อนําาเสนอโปรโมชั่นสินค้า/บริการ ข่าวสาร และประกาศจาก อพวช. ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ท่านอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเข้าร่วมการแข่งขัน การจับรางวัล และการส่งเสริมการขายอื่น ๆ ที่คล้ายกัน เพื่อให้ท่านสามารถเข้าร่วมการเสนอการขาย ข้อเสนอพิเศษ สิทธิพิเศษการจับสลาก และข้อเสนอ/การส่งเสริมการขายอื่น (เช่น เพื่อส่งอีเมลแจ้งเตือนถึงท่าน) แคมเปญทางเทคนิค กิจกรรม งานกิจกรรม และสัมมนา การทําการตลาดซ้ำ การเข้าหากลุ่มเป้าหมายซ้ำ และบริการโฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อประมวลผลและบริการจัดการการสมัครสมาชิก การลงทะเบียนรับของขวัญ และการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อตรวจสอบประวัติผู้ใช้ทั้งหมดของท่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และอํานวยความสะดวกให้แก่ท่านในการเข้าร่วมกิจกรรม การแนะนําและการปรับเนื้อหาให้เหมาะกับบุคคล เพื่อแนะนําสินค้าและบริการที่ท่านอาจจะสนใจ ทราบถึงความต้องการของท่าน และปรับสินค้าและบริการให้เหมาะสมกับท่านโดยเฉพาะ การลงทะเบียนและการยืนยันตัวตน เพื่อลงทะเบียน พิสูจน์ ระบุ และยืนยันตัวตนของท่าน เพื่อติดต่อและสื่อสารกับท่าน เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับการตลาดการขาย ข้อเสนอพิเศษ การส่งเสริมการขาย ข่าว และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ เพื่อประมวลผลและอัปเดตข้อมูลของท่าน การรวบรวมข้อมูล (profiling) และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อวัดความมีส่วนร่วมของท่านกับสินค้าและบริการ เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาสินค้าและบริการ การวิจัยการตลาด การสำรวจ การประเมิน พฤติกรรม สถิติและการจัดประเภท แนวโน้มและรูปแบบการบริโภค เพื่อทำความรู้จักท่านมากขึ้น เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจและเพื่อปรับเนื้อหาของเราให้เหมาะกับความชอบของลูกค้าของเราได้ดียิ่งขึ้น เพื่อกำหนดประสิทธิภาพของแคมเปญส่งเสริมการขายของเรา เพื่อให้เห็นและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่มีอยู่ และการพัฒนาข้อมูลเชิงคุณภาพ เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับคุณมากขึ้น เพื่อทราบข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ท่านได้รับ และสินค้าและบริการอื่นที่ท่านอาจสนใจ รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูล (profiling) จากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตัวอย่างเช่น ด้วยการพิจารณาประเภทของสินค้าและบริการที่ท่านใช้จากเรา ท่านต้องการให้เราติดต่อท่านอย่างไร ฯลฯ เพื่อทราบข้อมูลจากการสำรวจความพึงพอใจและการประเมินเครดิตลูกค้า การปกป้องผลประโยชน์ของ อพวช. เพื่อรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกิจของ อพวช. เพื่อใช้สิทธิและปกป้องผลประโยชน์ของ อพวช. เมื่อจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกัน และตอบสนองต่อข้อร้องเรียนเรื่องการทุจริต ข้อร้องเรียนเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดกฎหมาย เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน เพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของ อพวช. เพื่อตรวจจับและป้องกันการกระทำผิดภายในสถานที่ของ อพวช. ซึ่งรวมถึง การใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันและรายงานอาชญากรรม เพื่อรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกิจของ อพวช. การตรวจจับการทุจริต เพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอื่นๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และป้องกันการทุจริต) รวมถึงการทำการตรวจสอบและบันทึกเป็นการภายใน การจัดการทรัพย์สิน ฐานข้อมูลด้านการทุจริต ระบบ และการควบคุมธุรกิจอื่น ๆ หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ อพวช.จะแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ อพวช.จะไม่กระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับท่านไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวม
ข้อ 3. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อพวช.จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข การนำข้อมูลไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ ก่อนที่ อพวช.จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน อพวช.จะทำการขอความยินยอมจากท่านก่อน โดยการขอความยินยอม อพวช.จะทำโดยชัดแจ้ง เป็นหนังสือหรือทำโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ท่านมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอมในการที่ อพวช. จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อพวช.จะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอมเพื่อให้เข้าถึงการรับบริการ หรือเข้าทำสัญญากับ อพวช. หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องสำหรับการเข้าทำสัญญา หรือการรับบริการนั้น นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจาก อพวช. มีหน้าที่ต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษา ความลับที่ อพวช. กำหนดขึ้น ในกรณีที่ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านใดเป็นผู้ยังไม่บรรลุ นิติภาวะ ถือเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การให้ความยินยอมของท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มี อำนาจกระทำแทนท่านด้วย หากผู้จะให้ความยินยอมนั้นเป็นผู้เยาว์ที่อายุไม่เกิน 10 ปี ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง ในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านใดเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ต้องขอความยินยอมจากผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลไร้ ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถนั้นแล้วแต่กรณี อพวช.จะดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ข้อ 4. การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อพวช. จะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่กรณีที่กฎหมายให้อำนาจไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือ มาตรา 26 อพวช. จะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา อพวช. จะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเฉพาะที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ อพวช.ได้แจ้งไว้ในข้อ 2 ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นที่ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ อพวช. เพื่อปฏิบัติตาม กฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อต้องเข้าทำสัญญากับ อพวช. อพวช. จะแจ้งให้ท่านทราบก่อน และจะแจ้งผลกระทบหากท่านไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่ อพวช. อพวช. จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่ของท่านโดยตรง เว้นแต่กรณีที่ อพวช. ได้แจ้งท่านถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งที่มาอื่น และได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว หรือเป็นการเก็บรวบรวมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26 อพวช. จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามประกาศของคณะกรรมการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 26 บัญญัติให้กระทำได้ การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อพวช. จะ ไม่ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นข้อมูลของท่านที่เก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26 อพวช. จะดูแลให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายในเรื่องนี้โดยเฉพาะ มิให้ ใช้ หรือเปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความ ยินยอม หรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ในกรณีที่ อพวช. จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคล หรือนิติบุคคลภายนอก บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกนั้นจะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ อพวช. ทราบก่อน และต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ไว้แก่ อพวช. อพวช. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ บริษัทหรือหน่วยงาน ผู้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ การบริหารกิจการ และการส่งเสริมการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ให้แก่ท่าน ในกรณีที่ อพวช. ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม อพวช. จะบันทึกการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นหนังสือหรือระบบ อิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีที่ อพวช. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ประเทศปลายทางหรือองค์กรระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตราฐาน คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เว้นแต่เป็นกรณีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 28 (1) – (6)
ข้อ 5. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่ อพวช. กำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่ อพวช.กำหนดขึ้น
5.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม : ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านอยู่กับ อพวช. เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น)
5.2 สิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับข้อมูลหรือสำเนาข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง หรือรับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเองที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อพวช. และขอให้ อพวช. ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม ว่า อพวช. ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
5.3 สิทธิในการคัดค้าน : ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ ในกรณีที่กฎหมายให้อำนาจอพวช.ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านได้โดยไม่ต้องขอ ความยินยอมจากท่านก่อน
5.4 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของ ได้ ดังต่อไปนี้ ข้อมูลของท่านไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน เมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมและ อพวช. ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เมื่อท่านใช้สิทธิคัดค้านตาม ข้อ 5.3 และ อพวช. ไม่อาจปฏิเสธคำขอได้ตามกฎหมาย เมื่อข้อมูลของท่านได้ถูกเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
5.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ อพวช. ระงับการใช้ข้อมูลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้ เมื่อ อพวช. อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอ เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน เมื่อข้อมูลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตั้งสิทธิเรียกร้อง ตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เมื่อ อพวช. อยู่ระหว่างพิสูจน์คำขอคัดค้านของท่านตามข้อ 5.3 เพื่อดูว่า อพวช.มีอำนาจตามกฎหมายให้ปฏิเสธคำคัดค้านของท่านได้หรือไม่
5.7 ท่านมีสิทธิร้องขอให้ อพวช. ดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หาก อพวช. ไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ อพวช.จะบันทึกคำร้องขอของท่านพร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์
5.8 สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
5.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่ อพวช. อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำ ขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล การใช้สิทธิละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น
ข้อ 6. การเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น
6.1 อพวช. อาจเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น โดย อพวช. จะแจ้งให้ท่านทราบก่อนที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งขอความยินยอม โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย บุคคลหรือหน่วยงานที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล วิธีการในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการเชื่อมโยง
6.2 หากมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงข้อมูล อพวช. จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และขอความยินยอมก่อนการดำเนินการ
ข้อ 7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อพวช. อาจปรับปรุงนโยบายส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ของ อพวช. การดำเนินงานของอพวช. และข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นจากท่าน โดย อพวช. จะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนิน การเปลี่ยนแปลง หรืออาจส่งประกาศให้ท่านทราบโดยตรง
ข้อ 8. ท่านจะติดต่อ อพวช.ได้อย่างไร หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อ อพวช.ได้ผ่านช่องทางดังนี้ อีเมล: nsm_mkt@nsm.or.th โทรศัพท์ 0 2577 9999 ต่อ 3150 (วันเวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00 น.) โทรสาร 0 2 577 9990 สถานที่ติดต่อ : องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เลขที่ 39 หมู่ 3 เทคโนธานี ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
เมื่อท่านตกลงยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ อพวช.จะถือว่าท่านยอมรับว่าการใช้บริการใด ๆ ของอพวช.ถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการทั้งหมด และการตกลงยอมรับดังกล่าวมีผลสมบูรณ์